ตะแกรงพลาสติกรางระบายน้ำคืออะไร? นิยมใช้ทำอะไร?

ตะแกรงพลาสติกรางระบายน้ำคืออะไร?

ตะแกรงพลาสติกรางระบายน้ำ คือ ตะแกรงที่ใช้สำหรับปิดช่องระบายน้ำในรางระบายน้ำ ซึ่งทำจากวัสดุ พลาสติก ที่มีคุณสมบัติทนทานต่อสภาพแวดล้อมและสามารถรองรับน้ำหนักที่เหมาะสมตามการใช้งาน

ลักษณะของตะแกรงพลาสติกรางระบายน้ำ :

• วัสดุพลาสติก : ส่วนใหญ่ทำจากพลาสติกที่มีความทนทาน เช่น พีวีซี (PVC) หรือ พอลิโพรพิลีน (PP) ซึ่งมีน้ำหนักเบาและไม่เป็นสนิม
• การออกแบบ : ตะแกรงมีรูหรือช่องที่ช่วยให้สามารถระบายน้ำได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยการออกแบบรูที่มีขนาดพอเหมาะจะช่วยป้องกันไม่ให้สิ่งสกปรกหรือขยะเข้าไปอุดตันในรางระบายน้ำ
• ติดตั้งง่าย : สามารถติดตั้งและถอดออกเพื่อทำความสะอาดหรือบำรุงรักษาได้อย่างง่ายดาย

คุณสมบัติเด่นของตะแกรงพลาสติกรางระบายน้ำ :

1. น้ำหนักเบา : ตะแกรงพลาสติกมีน้ำหนักเบากว่าตะแกรงที่ทำจากวัสดุอื่น เช่น เหล็กหรือไฟเบอร์กลาส ทำให้สะดวกในการขนย้ายและติดตั้ง
2. ทนทานต่อสารเคมี : พลาสติกบางชนิด เช่น พีวีซี ทนทานต่อการกัดกร่อนจากสารเคมีและสารละลายได้ดี เหมาะสำหรับใช้ในพื้นที่ที่มีการปนเปื้อนสารเคมี
3. ไม่เป็นสนิม : พลาสติกไม่เป็นสนิม ซึ่งทำให้ตะแกรงพลาสติกรางระบายน้ำเหมาะกับการใช้งานในสภาพแวดล้อมที่มีความชื้นสูง หรือที่ต้องสัมผัสกับน้ำหรือสารเคมีที่อาจทำให้วัสดุอื่นๆ เกิดการกัดกร่อน
4. ทนความร้อนบางประเภท : พลาสติกบางชนิดสามารถทนทานต่ออุณหภูมิสูงได้ แม้ว่าจะไม่ทนได้เหมือนวัสดุที่ทำจากโลหะหรือไฟเบอร์กลาส แต่ก็เหมาะกับการใช้งานในพื้นที่ที่มีการสัมผัสกับความร้อนปานกลาง
5. ประหยัดค่าใช้จ่าย : เนื่องจากวัสดุพลาสติกมีต้นทุนการผลิตที่ต่ำกว่าวัสดุอื่น ๆ เช่น เหล็กหรือไฟเบอร์กลาส การเลือกใช้ตะแกรงพลาสติกจึงมีค่าใช้จ่ายต่ำกว่า
6. ความยืดหยุ่น : พลาสติกสามารถขึ้นรูปได้หลากหลาย ทำให้สามารถออกแบบตะแกรงที่เหมาะสมกับขนาดของรางระบายน้ำได้อย่างลงตัว

การใช้งานทั่วไป :

1. ในบ้านและสวน : ตะแกรงพลาสติกรางระบายน้ำมักใช้ใน พื้นที่กลางแจ้ง เช่น รางระบายน้ำรอบบ้าน สวน หรือทางเดิน ซึ่งต้องการการระบายน้ำจากฝน
2. ในที่จอดรถ : ตะแกรงพลาสติกยังนิยมใช้ใน ลานจอดรถ หรือ ถนนในชุมชน ที่มีการระบายน้ำจากฝน เพื่อป้องกันการอุดตันจากขยะ
3. ในโรงงานอุตสาหกรรม : ตะแกรงพลาสติกอาจถูกใช้ในบางประเภทของโรงงานที่ไม่ต้องการวัสดุที่มีความทนทานสูง แต่ยังคงต้องการการระบายน้ำที่ดี
4. สถานที่ที่มีการใช้น้ำปนสารเคมีเบา : เช่น โรงงานอาหาร หรือห้องแล็บที่ต้องการตะแกรงที่ไม่เป็นสนิมและสามารถทนต่อสารเคมีบางประเภทได้

ข้อดีของตะแกรงพลาสติกรางระบายน้ำ :

• ติดตั้งง่ายและประหยัดเวลา
• ทนทานและไม่เป็นสนิม
• ราคาถูกกว่าวัสดุอื่นๆ
• น้ำหนักเบา ทำให้การขนย้ายและการติดตั้งทำได้ง่าย
• ไม่ต้องบำรุงรักษามาก เนื่องจากไม่เกิดการผุกร่อน

ข้อจำกัด:

• ทนทานต่อแรงกดทับต่ำกว่า ตะแกรงที่ทำจากวัสดุอื่น เช่น เหล็กหรือไฟเบอร์กลาส อาจไม่เหมาะกับการใช้งานในพื้นที่ที่ต้องรองรับน้ำหนักมาก
• ทนอุณหภูมิสูงไม่ดีเท่ากับวัสดุอื่น พลาสติกบางชนิดอาจเสียหายจากความร้อนสูงได้

สรุป:

ตะแกรงพลาสติกรางระบายน้ำเป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับการใช้งานในพื้นที่ที่ไม่ต้องการการรองรับน้ำหนักมากหรือการสัมผัสกับสารเคมีรุนแรง โดยมีข้อดีในการติดตั้งง่าย น้ำหนักเบา ราคาประหยัด และทนทานต่อการกัดกร่อน

ตะแกรงพลาสติกรางระบายน้ำมีกี่ขนาด?

ตะแกรงพลาสติกรางระบายน้ำ มีหลายขนาดและการออกแบบที่สามารถเลือกใช้งานได้ตามความต้องการของพื้นที่และประเภทของการใช้งาน ขนาดของตะแกรงพลาสติกรางระบายน้ำมักจะถูกกำหนดตามความกว้างของรางระบายน้ำและความสามารถในการรองรับน้ำหนัก โดยทั่วไปแล้ว ขนาดของตะแกรงพลาสติกรางระบายน้ำมักจะมีขนาดดังนี้:

ขนาดมาตรฐานของตะแกรงพลาสติกรางระบายน้ำ :

1. ความกว้างของราง (Width)

   • ขนาดทั่วไป : 100 มม. (4 นิ้ว), 150 มม. (6 นิ้ว), 200 มม. (8 นิ้ว), 300 มม. (12 นิ้ว)
   • ขนาดเหล่านี้มักใช้ในพื้นที่ทั่วไป เช่น การระบายน้ำในบ้าน, ลานจอดรถ, หรือพื้นที่ในสวน
   • อาจมีขนาดพิเศษที่ใหญ่ขึ้นหรือน้อยลง ขึ้นอยู่กับลักษณะการใช้งาน

2. ความยาวของตะแกรง (Length)

   • ขนาดมาตรฐานของความยาวมักอยู่ที่ประมาณ 1 เมตร หรือ 1.2 เมตร ต่อแผ่น
   • โดยสามารถตัดหรือเชื่อมต่อระหว่างแผ่นตะแกรงเพื่อให้ได้ความยาวที่ต้องการ

3. ความหนาของตะแกรง (Thickness)

   • ความหนาของตะแกรงพลาสติกสามารถมีได้ตั้งแต่ 4 มม. ถึง 10 มม.
   • ขึ้นอยู่กับระดับของการรองรับน้ำหนักและประเภทการใช้งาน เช่น ใช้ในพื้นที่ที่มีน้ำหนักบรรทุกมากอาจใช้ความหนาที่มากขึ้น

4. ช่องว่างระหว่างแถบ (Bar Spacing)

   • ช่องระหว่างแถบของตะแกรงพลาสติกหรือช่องระบายน้ำอาจมีขนาดต่างกัน เช่น 20 มม. ถึง 50 มม. ขึ้นอยู่กับการออกแบบ
   • การออกแบบช่องว่างนี้จะพิจารณาจากประเภทของสิ่งที่ต้องการป้องกันไม่ให้เข้าไปในรางระบายน้ำ เช่น ขยะ หรือสิ่งแปลกปลอม

ขนาดที่นิยมใช้ :

• ขนาด 100 มม. (4 นิ้ว) : นิยมใช้ในพื้นที่ที่ไม่ต้องรองรับน้ำหนักมาก เช่น สวนสาธารณะ หรือในบ้าน
• ขนาด 150 มม. (6 นิ้ว) และ 200 มม. (8 นิ้ว) : เหมาะสำหรับการระบายน้ำในลานจอดรถ, ทางเดิน หรือสถานที่ที่มีการใช้งานทั่วไป
• ขนาด 300 มม. (12 นิ้ว) : ใช้ในพื้นที่ที่มีการระบายน้ำมาก เช่น ถนนในพื้นที่อุตสาหกรรมหรือพื้นที่ที่มีการจราจรหนาแน่น

การเลือกขนาดตะแกรงพลาสติกรางระบายน้ำ :

• การเลือกขนาดของตะแกรงจะขึ้นอยู่กับ ขนาดของรางระบายน้ำ และ ความต้องการการระบายน้ำ เช่น พื้นที่ที่มีน้ำไหลมากหรือมีการใช้งานหนัก เช่น ลานจอดรถหรือในอุตสาหกรรมอาจต้องการตะแกรงที่มีขนาดใหญ่และทนทานมากขึ้น
• นอกจากนี้ยังต้องพิจารณาถึง การรองรับน้ำหนัก โดยเฉพาะในพื้นที่ที่มีรถยนต์หรือเครื่องจักรหนักสัญจร

สรุป :

ตะแกรงพลาสติกรางระบายน้ำมีหลายขนาดให้เลือกใช้งาน โดยทั่วไปมีความกว้างตั้งแต่ 100 มม. ถึง 300 มม. และมีความยาวประมาณ 1 เมตรหรือ 1.2 เมตร ขนาดที่เลือกใช้จะขึ้นอยู่กับประเภทของพื้นที่และการใช้งาน เช่น การระบายน้ำในบ้าน, ลานจอดรถ, หรือพื้นที่อุตสาหกรรม

ตะแกรงพลาสติกรางระบายน้ำมีกี่สี?

ตะแกรงพลาสติกรางระบายน้ำ มักจะมีหลายสีให้เลือกใช้งาน ขึ้นอยู่กับการออกแบบและผู้ผลิต โดยสีที่ใช้จะมีทั้งการใช้งานด้านความสวยงามและความทนทานต่อสภาพแวดล้อม เช่น สีที่ทนต่อแสงแดดหรือสารเคมีต่างๆ

สีที่นิยมใช้ในตะแกรงพลาสติกรางระบายน้ำ :

1. สีดำ (Black)

   • เป็นสีที่พบมากที่สุดในตะแกรงพลาสติก เนื่องจากสีดำมีความทนทานต่อแสงแดดและสามารถใช้ได้ในหลายสภาพแวดล้อม
   • เหมาะสำหรับการใช้งานในพื้นที่ที่ต้องการความทนทานต่อสภาพอากาศ เช่น ถนน ลานจอดรถ หรือพื้นที่สวนสาธารณะ
   • สีดำยังช่วยในการซ่อนสิ่งสกปรกหรือฝุ่นต่างๆ ที่อาจเกาะติดบนพื้นผิว

2. สีเทา (Gray)

   • สีเทาเป็นอีกสีที่นิยมใช้ เพราะให้ความรู้สึกเป็นกลางและไม่สะดุดตาเกินไป
   • ใช้ได้ทั้งในบ้านและพื้นที่สาธารณะ เช่น ลานจอดรถ หรือทางเดิน
   • สีเทายังมีความทนทานและไม่ดูสกปรกง่ายเหมือนสีขาว

3. สีขาว (White)

   • ใช้ในบางพื้นที่ที่ต้องการความสะอาด หรือการระบายน้ำที่มีความสวยงาม
   • แม้ว่าจะดูสะอาด แต่จะมีการเกาะฝุ่นและสกปรกได้ง่ายกว่าสีดำหรือสีเทา
   • มักจะใช้ในพื้นที่ที่เน้นความสวยงาม เช่น สวนสาธารณะ หรือพื้นที่แสดงโชว์

4. สีเหลือง (Yellow)

   • สีเหลืองมักจะถูกใช้ในพื้นที่ที่ต้องการเน้นความชัดเจน เช่น บริเวณที่มีการจราจร หรือสถานที่ที่ต้องการความระมัดระวัง
   • เป็นสีที่สามารถเห็นได้ชัดเจนในที่มืดหรือในกรณีที่เกิดอุบัติเหตุ

5. สีเขียว (Green)

   • นิยมใช้ในพื้นที่สวนหรือพื้นที่ทางธรรมชาติที่ต้องการให้ตะแกรงพลาสติกกลมกลืนไปกับสภาพแวดล้อม
   • สีเขียวช่วยให้บรรยากาศดูร่มรื่นและไม่รบกวนความสวยงามของธรรมชาติ

6. สีส้ม (Orange)

   • สีส้มมักจะใช้ในพื้นที่ที่ต้องการให้เด่นชัดและเป็นสัญญาณเตือน เช่น ใกล้กับการก่อสร้าง หรือในพื้นที่ที่มีการทำงานหนัก
   • มักจะเห็นได้ในพื้นที่ที่มีความเสี่ยงสูงหรือความต้องการความระมัดระวังในการใช้งาน

7. สีฟ้า (Blue)

   • ใช้ในบางพื้นที่ที่ต้องการสื่อถึงความสะอาดและสวยงาม เช่น ในพื้นที่สาธารณะหรือทางเดินในอาคาร
   • สีฟ้าจะให้บรรยากาศที่สดใสและดูสะอาดตา

การเลือกสีของตะแกรงพลาสติกรางระบายน้ำ :

• การใช้งานในที่ต่างๆ : สีที่เลือกใช้มักจะพิจารณาจากลักษณะของพื้นที่ เช่น พื้นที่สาธารณะ, ถนน, ลานจอดรถ หรือสวนสาธารณะ
• ความทนทานต่อแสงแดด : สีเข้ม เช่น สีดำ และ สีเทา มักทนทานต่อแสงแดดได้ดีกว่าสีอ่อน
• ความต้องการด้านความปลอดภัย : สีที่เด่น เช่น สีเหลือง และ สีส้ม มักใช้ในพื้นที่ที่ต้องการความระมัดระวัง หรือมีความเสี่ยงในการใช้งาน เช่น ใกล้กับพื้นที่ที่มีการจราจรหรือการก่อสร้าง

สรุป

ตะแกรงพลาสติกรางระบายน้ำมักจะมีหลากหลายสีให้เลือกตามการใช้งานและความต้องการของผู้ใช้ โดยสีที่นิยมที่สุดคือ สีดำ เพราะความทนทานและความสามารถในการซ่อนสิ่งสกปรก แต่ยังมีสีอื่นๆ เช่น สีเทา, สีขาว, สีเหลือง, สีส้ม, สีเขียว และสีฟ้า ให้เลือกตามความต้องการในการใช้งานและสภาพแวดล้อมที่ต้องการ